เคมีบำบัดกับผู้ป่วยมะเร็งปอด ระยะลุกลาม ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะกลัวเมื่อได้ยินคำว่า “เคมีบำบัด” บางคนก็จะบอกว่าไม่เอา ไม่รับการรักษา แต่สิ่งที่หมออยากจะบอกก็คือ ยาเคมีบำบัดในปัจจุบันนี้เรามีการพัฒนาและปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพที่ดี ผลข้างเคียงที่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

เคมีบำบัด (Chemotherapy) ถ้าแปลตรงตัวก็คือการรักษาด้วยสารเคมี การทำงานของยาเคมีบำบัดคือการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ เมื่อเซลล์มะเร็งแบ่งตัวไม่ได้ก็จะฝ่อลง และจะไม่โตขึ้น ไม่แพร่กระจายไปที่อื่น

มะเร็งปอดแบบไหนต้องให้เคมีบำบัด?
แรกสุดต้องดูชนิดของมะเร็งปอดก่อนว่าเป็นชนิดใด เพราะปัจจุบันนี้เรามียาค่อนข้างหลากหลาย นอกจากยากลุ่มเคมีบำบัดแล้ว เราก็มีพวกยามุ่งเป้าและยาภูมิคุ้มกันบำบัด ในผู้ป่วยที่ตรวจแล้วว่าเหมาะสมกับการได้รับยาเคมีบำบัดเท่านั้น เราก็จะต้องดูสภาพร่างกายของผู้ป่วยว่า เขาแข็งแรงดีไหม การทำงานของอวัยวะภายในเป็นปกติหรือเปล่า และผู้ป่วยเหมาะกับการรับยาเคมีบำบัดที่มีความแรงแค่ไหน

การให้ยาเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะลุกลาม
จุดประสงค์อย่างแรก คือ เป็นการลดขนาดของก้อนมะเร็ง ลดปริมาณเซลล์มะเร็งลง
จุดประสงค์อย่างที่สอง คือ อาจจะลดการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ พอขนาดของก้อนเล็กลงหรือว่าไม่ได้แพร่กระจายไปอวัยวะอื่นๆ ผู้ป่วยก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอาการของโรคน้อยลง เช่น เหนื่อยน้อยลง ไอน้อยลง หรือปวดน้อยลง

ระยะเวลาในการให้ยาเคมีบำบัด
สูตรการให้ยาเคมีบำบัดโดยทั่วๆ ไป เฉลี่ยแล้วเราจะให้ประมาณ 6 ครั้ง ทุก 3-4 สัปดาห์
การให้ถึง 6 ครั้ง หมายความว่า คนไข้ต้องมีการตอบสนองและต้องมีการควบคุมโรคได้
ช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์ เป็นช่วงที่ทำให้ร่างกายฟื้นตัว เพราะร่างกายปกติของเราก็ได้รับผลจากยาเคมีบำบัด การเว้น 3-4 สัปดาห์เป็นช่วงที่ทำให้เซลล์ร่างกายมีการฟื้นตัวและพร้อมรับยาเคมีบำบัดรอบต่อๆ ไปได้

ทำไมจึงให้เคมีบำบัดครั้งเดียวไม่ได้?
เราไม่สามารถให้ยาครั้งเดียวแล้วจบ เพราะเซลล์มะเร็งแต่ละตัวมีระยะของการแบ่งเซลล์ไม่เท่ากัน การให้ยารอบเดียวไป เซลล์มะเร็งบางตัวก็ได้รับผลของยา เซล์มะเร็งบางตัวก็ยังไม่ได้รับผล เราจึงต้องมีการให้ยาเคมีบำบัดเป็นรอบๆ ปริมาณของเซลล์มะเร็งจึงจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ตามรอบที่เราให้ยาไป

ผู้ที่รับยาเคมีบำบัดควรดูแลตัวเองอย่างไร?
แรกสุดคือการกินอาหาร คนไข้มักได้รับการบอกเล่าว่า “ห้ามกินเนื้อ ให้กินแต่ผัก” แต่จริงๆ แล้วทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะร่างกายปกติของเราต้องการสารอาหาร ต่อให้เรากินน้อยยังไงเซลล์มะเร็งก็แย่งอาหารจากร่างกายเราอยู่แล้ว ดังนั้นหมอแนะนำให้ผู้ป่วยกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

อย่างที่สองก็คือการออกกำลังกาย เราไม่ได้ห้ามผู้ป่วยไม่ให้ออกกำลังกายนะ แต่ขอให้ออกกำลังกายตามที่ทำได้ คือ ไม่ฝืน

อย่างที่สามซึ่งสำคัญมาก คือ การกินยาที่เราไม่ทราบชนิด เราไม่ทราบว่ายาอะไรจะมีผลต่อยาเคมีบำบัดของเราหรือเปล่า การกินยาชุด ยาหม้อ ยาสมุนไพร หรือว่ายาต่างๆ ที่มีการโฆษณาโดยที่ไม่ได้มีผลการศึกษาที่ชัดเจน จะส่งผลต่อการให้ยาเคมีบำบัดและมีผลต่ออวัยวะภายใน อาจทำให้เราไม่สามารถให้ยาเคมีบำบัดได้อย่างต่อเนื่อง

ถ้าผู้ป่วยปฏิบัติตัวได้ทั้งหมดตามที่หมอแนะนำไป หมอก็เชื่อว่าผู้ป่วยจะสามารถอยู่กับเคมีบำบัดได้ และก็ใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติมากที่สุด


#LungAndMe​
#BetterOutcomes​
#มะเร็งปอด​
#รักษามะเร็ง​
#คนไข้มะเร็งปอด​
#หายจากโรคมะเร็ง​
#เคมีบำบัด​ #ทำคีโม